วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2555
เช้าวันนี้ฉันต้องทำการบ้านให้เสร็จทั้งหมดเพราะจะต้องส่งในวันจันทร์ ต้องฝึกเขียนและท่องอาณาจักรพืชและอาณาจักรสัตว์ให้ได้เพราะต้องสอบในวันพุธ และสุดท้ายก็จะต้องเตรียมอุปกรณ์ทำงานวิชาชีวะมาทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆ
วรินทร เลาปุณยนนท์ ม.4/3
วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2555
วันนี้เป็นวันที่มีงานต้องส่งเยอะที่สุดในสัปดาห์นี้ ในตอนเช้าฉันก็ต้องรีบมาโรงเรียนนำงานวิชาฟิสิกส์มารวมกับเพื่อนกลุ่มเดียวกันแล้วรีบนำไปส่งในตอนเช้าก่อนเข้าแถว พอตอนพัก10โมงก็จะต้องทำงานวิชาภาษาไทยที่ต้องส่งในคาบที่3 ตอนพักกลางวันก็ต้องรีบกินข้าวเพื่อมาทำงานวิชาแนะแนวและวิชาดนตรีไทยที่ต้องส่งในคาบที่6และคาบที่7 ในตอนเย็นหลังเลิกเรียนแล้วฉันก็ต้องไปเรียนพิเศษวิชาฟิสิกส์ต่อเลิกตอน6โมงครึ่งจึงได้กลับบ้านมาอาบนํ้าแล้วเข้านอน
วันนี้เป็นวันที่มีงานต้องส่งเยอะที่สุดในสัปดาห์นี้ ในตอนเช้าฉันก็ต้องรีบมาโรงเรียนนำงานวิชาฟิสิกส์มารวมกับเพื่อนกลุ่มเดียวกันแล้วรีบนำไปส่งในตอนเช้าก่อนเข้าแถว พอตอนพัก10โมงก็จะต้องทำงานวิชาภาษาไทยที่ต้องส่งในคาบที่3 ตอนพักกลางวันก็ต้องรีบกินข้าวเพื่อมาทำงานวิชาแนะแนวและวิชาดนตรีไทยที่ต้องส่งในคาบที่6และคาบที่7 ในตอนเย็นหลังเลิกเรียนแล้วฉันก็ต้องไปเรียนพิเศษวิชาฟิสิกส์ต่อเลิกตอน6โมงครึ่งจึงได้กลับบ้านมาอาบนํ้าแล้วเข้านอน
วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555
นางเงือกสวยจริงเหมือนในตำนานหรือไม่
ภาพเจ้าหญิงเงือกแสนสวยที่มีผมยาวปลิวไสว และมีหางเหมือนปลานั้นเป็นที่ติดตาตรึงใจของผู้คนมากมาย แต่จริงๆแล้วเงือกเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในทะเลเรียกว่า พะยูน ไม่ใช่สัตว์ประเภทปลา แต่เป็นสัตว์ประเภทปลา แต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และหน้าตาค่อนข้างขี้เหร่ด้วย นิสัยของพะยูนนั้นจะอุ้มลูกไว้ที่อกให้กินนมในท่ากึ่งนอน ทำให้ส่วนหัวและส่วนหน้าอกโผล่พื้นผิวน้ำจนดูเหมือนท่าทางของหญิงสาวกำลังให้นมลูกอยู่ ดังนั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยในทะเลชอบอยู่โดเดี่ยวตัวนี้ จึงกลายเป็นเงือกในตะนานไป พะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทวัวทะเล เมื่อก่อนอาศัยอยู่บนบก แต่เมื่อพื้นดินเปลี่ยนเป็นพื้นน้ำ พะยูนก็ลงไปอาศัยอยู่ในน้ำ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปร่างกายของมันจึงเปลี่ยนคล้ายปลา ขาหน้าเปลี่ยนเป็นครีบ ขาหลังหายไป หางก็เปลี่ยนไปคล้ายหางปลา มีกระเพาะถึงสี่กระเพาะ ระบบย่อยอาหารก็ดีมาก ดั้งนั้นวันหนึ่งๆมันจึงเอาแต่เคี้ยวพืชจำพวกสาหร่ายและหญ้าทะเล
ที่มา: www.ความรู้รอบตัว.com
วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555
นกพิราบสื่อสารหาทางกลับบ้านได้อย่างไร
เหตุที่นกพิราบหาทางกลับบ้านจากที่ไกลๆได้นั้น เพราะมันมีประสาทสัมผัสในการแยกแยะทิศทางอยู่มากมาย นกพิราบมีเหล็กออกไซด์ในเซลล์ประมาทที่จะงอยปาก สามารถสนองตอบต่อสนามแม่เหล็กได้ มันจึงมีประสาทสัมผัสที่รับรู้ถึงพลังแม่เหล็กได้เหมือนเข็มทิศ สิ่งนี้ทำให้นกพิราบเหมือนกับนกประเภทอื่นรวมถึงเต่าทะเลที่สามารถใช้สนามแม่เหล็กของโลกในการนำทาง หากท้องฟ้าแจ่มใส นกพิราบจะใช้แสงอาทิตย์นำทาง หากท้องฟ้ามืดครึ้มหรือเป็นเวลากลางคืนก็ใช้สนามแม่เหล็กของโลกนำทาง นอกจากนี้นกพิราบยังมีจมูกที่ไวต่อกลิ่น ดังนั้นมันจึงใช้กลิ่นในการหาทางกลับได้อีกด้วย นกพิราบมักอยู่ด้วยกันเป็นคู่เสมอ หากจับคู่กันแล้วก็จะไม่เปลี่ยนคู่ไปตลอดชีวิต หากคู่ของมันตายไป อีกฝ่ายก็จะใช้คอของตนเองลูบไล้ไปที่ร่างคู่ของมัน เพื่อแสดงความโสกเศร้าและอาลัยอาวรณ์
นั้นต้องมีหัวใหญ่ ลูกตาสุกใส ลูกตาดำ ตอบสนองฉับไว บ่ากว้าง หน้าอกแบนราบ ปีกกว้างและแข็งแรง ขาสั้นแต่เล็บคม น้ำหนักไม่เกิน 450 กรัม
ที่มา:www.ความรู้รอบตัว.com
นั้นต้องมีหัวใหญ่ ลูกตาสุกใส ลูกตาดำ ตอบสนองฉับไว บ่ากว้าง หน้าอกแบนราบ ปีกกว้างและแข็งแรง ขาสั้นแต่เล็บคม น้ำหนักไม่เกิน 450 กรัม
ที่มา:www.ความรู้รอบตัว.com
คุณประโยชน์ของน้ำส้มสายชู
- ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยป้องกันโรคติดต่อเกี่ยวกับลำไส้ได้ด้วย
- ใช้รักษากลากเกลื้อน เรื้อนกวางโดยใช้น้ำส้มสายชูทาบริเวณทีเป็น วันละ 2-4 ครั้ง
- ใช้รักษารังแคและอาการคันศีรษะ สระผมให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นก่อนจากนั้นจึงใช้น้ำเย็นผสมน้ำส้มสายชูราดล้างผม
- ข้อเท้าพลิกหรือข้อเท้าแพลง ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำส้มสายชุประคบบริเวณที่ปวด ช่วยลดอาการบวมปวดได้ดี
ที่มา: www.ความรู้รอบตัว.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)